S.A.W.

  • Skywork AI และ Manus AI: สองยักษ์ใหญ่ในวงการ AI ที่น่าจับตามอง
    Posted On

    Skywork AI และ Manus AI: สองยักษ์ใหญ่ในวงการ AI ที่น่าจับตามอง

    บทนำ ในยุคที่เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence หรือ AI) กำลังเปลี่ยนแปลงโลกอย่างรวดเร็ว เราได้เห็นการเติบโตอย่างก้าวกระโดดของบริษัทที่พัฒนาเทคโนโลยี AI ในรูปแบบต่างๆ ทั่วโลก การแข่งขันในตลาด AI ทวีความเข้มข้นขึ้นเรื่อยๆ โดยมีผู้เล่นหลายรายที่พยายามสร้างนวัตกรรมและความแตกต่างเพื่อช่วงชิงส่วนแบ่งตลาดที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็วนี้ ท่ามกลางบริษัท AI มากมายที่เกิดขึ้นในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา มีสองบริษัทที่น่าจับตามองเป็นพิเศษ นั่นคือ Skywork AI และ Manus AI…

  • ชี้ชะตานิยายด้วยชื่อเรื่องและธีม
    Posted On

    ชี้ชะตานิยายด้วยชื่อเรื่องและธีม

    . นิยายบางประเภทอาจจะไม่จำเป็นต้องให้ความสำคัญกับชื่อเรื่อง เพราะอย่างไรเสียนักอ่านก็คิดว่าคงไม่พ้นขอบเขตในสิ่งที่ตนเองอ่านหรอกน่า ใสขณะที่นิยายบางประเภทจำเป็นต้องให้ความสำคัญกับชื่อเรื่องเป็นอย่างมาก วันก่อนผมเข้าไปในเว็บหนึ่งซึ่งโฆษณาให้อ่านนิยายใหม่ โดยมีความเร้าใจคือโปรโมชันอ่านฟรี 14 วัน และจำนวนที่ให้อ่านฟรีมีถึง 80 ตอน! ว้าว…มันน่าว้าวใช่มั้ยครับ มันเป็นนิยายเกี่ยวกับอาหาร เพราะชื่อเรื่องมันบอกอย่างนั้น แต่เนื้อหามันไม่ได้เกี่ยวกับอาหารเลย มันไปพัวพันกับองค์กรใต้ดินเสียส่วนใหญ่ จนนักอ่านรำพึงในคอมเม้นว่า “ถูกหลอกให้อ่าน” คุณคิดดูสิ ขนาดให้อ่านฟรีถึง 80 ตอน มันควรจะดีใจใช่มั้ย แต่เขากลับรู้สึกแย่ที่รับข้อเสนอนี้ไป เพราะมันทำให้เขาเสียเวลา…

  • 5 เหตุผลที่ทำให้คุณขี้เกียจเขียนนิยาย
    Posted On

    5 เหตุผลที่ทำให้คุณขี้เกียจเขียนนิยาย

    . ปัญหาอันดับหนึ่งในการเขียนนิยายคืออะไร? แน่นอนว่าคำตอบคือ…ความขี้เกียจ นี่คือปัญหาหลัก หนังสือเล่มแรกของผมก็เลยออกเป็น “เขียนนิยายจบได้ ตามสไตล์คนขี้เกียจ” ผมคิดว่าหนังสือผมต้องปังแน่เลย เพราะจี้ใจดำและแก้ไขที่ต้นตอของปัญหา สรุปว่าขายได้ 8 เล่ม เพราะผมลืมนึกไปว่าคนขี้เกียจเขียนนิยายก็จะขี้เกียจอ่านหนังสือผมด้วย (555) มันเป็นเรื่องที่น่าเสียดายที่คนมีเป้าหมายอย่างคุณ มีความตั้งใจที่จะเขียนนิยายให้จบ มีความฝันว่าจะทำเงินได้เป็นกอบเป็นกำในฐานะนักเขียน แต่ทว่าดันตกม้าตายด้วยความขี้เกียจนี้แหละ ความขี้เกียจจึงเป็นภัยคุกคามต่อชีวิต และจำเป็นที่จะต้องกำจัดมันไป ทว่าการจะกำจัดมันไปได้ เราก็ต้องรู้ต้นเหตุของมันก่อนครับ หากไปจัดการที่ปลายเหตุ ไม่มีทางหรอกที่จะสำเร็จ มาดูกันครับว่ามีอะไรกันบ้าง…

  • 3 เทคนิคการนำเสนอตัวละคร
    Posted On

    3 เทคนิคการนำเสนอตัวละคร

    . นิยายต้องมีตัวละคร แล้วตัวละครมันไม่ได้แนะนำตัวเองได้ทุกครั้งหรอกนะครับ เราต้องนำเสนอให้ผู้อ่านได้รับรู้ว่าตัวละครตัวนั้นชื่ออะไรเป็นอย่างไร โอเค…ในบทสนทนาเราสามารถให้ตัวละครอีกตัวหนึ่งเอ่ยทักด้วยชื่อของตัวละครอีกตัวหนึ่งได้ แต่รายละเอียดอย่างอื่นเราไม่สามารถใส่ลงไปในนั้นได้เลย สิ่งที่มักจะพบกันบ่อย ๆ สำหรับนักเขียนมือใหม่คือ…การตั้งชื่อให้ตัวละครเพียงอย่างเดียวโดยไม่ได้บรรยายอะไรเพิ่มเติมเลย รูปร่างหน้าตาเป็นอย่างไร ใส่ชุดอะไร และที่สำคัญคือ…มันเป็นใคร จู่ ๆ ก็โผล่มาแล้วก็พูด ซึ่งโดยส่วนใหญ่มันไม่จำเป็นต้องพูดเลย แล้วเราก็สามารถตัดเนื้อหาตรงส่วนนั้นออกไปได้ บางเรื่องผมเห็นว่าตัดไปค่อนบทยังได้เลย ไม่ได้มีประเด็นอะไรเลย ใส่เข้ามาเพื่อให้นิยายดูแย่ ยิงถ้าเป็นบทแรกด้วยแล้ว มันคือการฆ่าตัวตาย นิยายไม่ทันได้เกิด ตายเสียแล้ว .…

  • การเขียนนิยายแบบ Act 1, Act 2, Act 3 มันเป็นยังไง
    Posted On

    การเขียนนิยายแบบ Act 1, Act 2, Act 3 มันเป็นยังไง

    . บางคนอาจจะเคยได้ยินกันมาบ้างสำหรับ Act 1, Act 2, Act 3 ซึ่งผมอ่านมาในตอนแรกก็ไม่ค่อยเข้าใจว่ามันจะแบ่งอะไรยังไง เพราะความจริงแล้วมันมีมากกว่านั้นครับ แล้วแต่เทคนิค แบบ Act 5, Act 7, Act 9 ก็มี แต่ 1 2 3 นี้ถือว่าเป็นรูปแบบมาตรฐานที่นิยายต้องมี สรุปก็คือ…

  • เขียนนิยายอย่างไรไม่ให้ออกทะเล
    Posted On

    เขียนนิยายอย่างไรไม่ให้ออกทะเล

    . เคยมีคนบอกว่าการพล็อตทำให้จำกัดความคิดสร้างสรรค์ เขาไม่ชอบ เขาชอบเขียนสด เออ…มันก็มีส่วนจริง และปัญหาที่ตามมาสำหรับคนเขียนสดคือ…ออกทะเล เขียนไปเรื่อย เขียนจนออกทะเล บางคนถึงขึ้นหลุดโลกทะลุจักรวาลจนกู่ไม่กลับ บางคนก็ตั้งใจออกทะเลเพื่อนที่ว่าจะยืดเรื่องให้ยาวขึ้น เพราะพวกเขาอาลัยอาวรณ์กับตัวละคร ไม่อยากให้เรื่องมันจบ แต่ส่วนใหญ่แล้ว ออกทะเลโดยไม่ได้ตั้งใจ อารมณ์มันพาไปจริง ๆ แล้วมันมีวิธีไหมที่จะไม่ให้ออกทะเลด้วย แล้วก็ไม่ให้มันจำกัดความคิดสร้างสรรค์ด้วย? มีสิ ถ้าไม่มีผมจะเขียนบทความมาทำไมกัน (555) ปัญหาของการเขียนสดอย่างแรกคือ…ไม่รู้อนาคต เราไม่รู้เลยว่าอนาคตจะเป็นอย่างไร และที่หนักไปกว่านั้นคือ…บางทีเราก็ไม่รู้ว่ามันจะจบยังไง กว่าจะรู้ว่าจบยังไงก็ต้องรอเขียนไปจนจบ…

  • หนังสือแนะนำสำหรับนักเขียนนิยายมือใหม่
    Posted On

    หนังสือแนะนำสำหรับนักเขียนนิยายมือใหม่

    . สมัยนี้ดีนะครับที่มีหนังสือสอนการเขียนนิยาย สมัยก่อนไม่มีเลย ผมลองผิดลองถูกกว่าจะเขียนจบได้เล่มแรกก็ปาเข้าไป 8 ปี เลิกเขียนไปตั้ง 3 ครั้ง เว้นระยะทำใจครั้งละ 2 ปี พอมีไฟก็กลับมาเขียนใหม่ การเริ่มต้นมันสำคัญจริง ๆ หากไม่มีใครแนะนำหรือหนังสือดี ๆ มันเสียเวลามากมาย อีกทั้งสมัยนี้ยังขายนิยายออนไลน์ได้ มันไม่ใช่แค่เสียเวลาอย่างเดียวสิครับ มันเสียโอกาสที่จะทำเงินก้อนโต เพราะในช่วงเวลาดังกล่าวนี้ หลาย ๆ คนได้จับเงินล้านเงินแสนจากเขียนนิยายกันแล้ว…

  • เครื่องมือตรวจคำผิดที่นักเขียนควรใช้กัน
    Posted On

    เครื่องมือตรวจคำผิดที่นักเขียนควรใช้กัน

    นักเขียนมือใหม่มักจะพิมพ์ผิด ไม่สิ ผมพูดผิด ไม่ว่าใครก็พิมพ์ผิดกันทั้งนั้นแหละ แต่นักเขียนหน้าใหม่มักจะปล่อยให้คำผิดมากมายเผยแพร่ไปสู่สาธารณะ และผมเองก็เป็นหนึ่งในนั้นเช่นกัน คุณนึกออกไหม ตอนที่ผมเขียนจบตอนมันก็ปาเข้าไปตีหนึ่งแล้ว ผมง่วงมาก แม้จะแก้คำผิดไปแล้ว มันก็ยังเหลืออีกเพียบ โดยผิวเผินเหมือนคำผิดพวกนี้ไม่ได้สร้างความเลวร้ายอะไรมากมาย ทว่านักอ่านบางคนจริงจังกับเรื่องนี้มาก มันทำให้เขาสะดุดและเสียอารมณ์ ยิ่งนิยายเขียนไม่ถูกใจด้วยแล้ว มันทำให้พวกเขาโบกมือลานิยายของเรากันอย่างง่าย ๆ เลยทีเดียว ผมเขียนหนังสือในรูปแบบ eBook ขายที่ MEB เขาซื้อไปอ่านแหละ แต่ก็วิจารณ์กลับมาว่าคำผิดเยอะ แทนที่จะได้…

  • เขียนนิยายต้องเริ่มที่จุดเด่น
    Posted On

    เขียนนิยายต้องเริ่มที่จุดเด่น

    ความผิดพลาดที่ใหญ่หลวงที่สุดในการเขียนนิยายก็คือ…มันไม่มีจุดเด่น คุณอาจจะคิดว่าไม่เป็นอะไร คุณคิดว่าเรื่องคุณสนุก หรือแค่อยากเขียนตามใจปรารถนา เพราะมันเป็นนิยายของคุณ โอเค…ถ้าคุณคิดอย่างนี้ คุณจงเตรียมใจไว้ว่าคุณจะเขียนนิยายเพื่ออ่านคนเดียว เพราะคนอื่นเขาไม่ได้คิดอย่างคุณ ทุกคนมีเวลาจำกัด แต่กิจกรรมมันเพิ่มขึ้น แม้แต่ความบันเทิงที่เขาอยากได้ แต่สื่อมีมากมายที่ตายแล้วก็ยังดูยังอ่านไม่หมด สิ่งที่เราต้องทำก็คือ…เลือก ในยุคสมัยก่อน นิยายที่เขียนบนแพลตฟอร์มออนไลน์ยังไม่มีการติดเหรียญ รายได้ทางเดียวที่จะได้จากการเขียนนิยายคือการออกเล่มกับสำนักพิมพ์ ซึ่งคุณจะต้องเขียนจบเสียก่อนเป็นอย่างแรก แต่ในยุคสมัยนั้นมีคนเขียนจบน้อยมาก ใครเขียนจบที่สำนักพิมพ์จะไปทาบทาม แล้วก็แก้ไขกันไปจนกว่าจะได้มาตรฐานระดับหนึ่ง นิยายของคุณจึงออกเล่มได้ สามารถสร้างรายได้ให้คุณได้ ทว่ากระบวนการดังกล่าวมันช่างโรยด้วยหนามกุหลาบ มันเหน็ดเหนื่อยและทรมาน น้อยคนนักที่จะประสบความสำเร็จ…

  • การใช้ Red Herring เพื่อการหักมุม
    Posted On

    การใช้ Red Herring เพื่อการหักมุม

    วันก่อนผมเลื่อนไปเจอคลิปหนึ่ง ซึ่งคนในคลิปน่าจะเป็นคนกัมพูชาที่พูดภาษาแขมร์ เด็กผู้ชายกำลังรีบผ้าขณะที่พ่อนอนแหกขาอยู่ใกล้ ๆ เขาออกศอกทั้งสองตั้งที่เข่าเพราะกำลังเล่นเกมมือถืออยู่ ลูกชายรีดผ้าไปไม่กี่วินาทีก็ยกเตารีดขึ้นมาดู เหมือนมันจะไม่ร้อน แต่พอเอามาทาบก็ถึงกับสะบัดมือแล้วเตารีดไว้บนผ้า ผู้เป็นพ่อแม้เล่นเกมอยู่ก็ยังคอยสอดส่อง เห็นลูกทำอย่างนั้นก็ชี้นิ้วบอกว่า “เฮ้ย อย่าวางเตารีดแบบนั้น เดี๋ยวผ้าไหม้” ลูกชายก็รีบเอาเรารีดไปวางข้าง ๆ พอเหมือนจะหายทรมานจากความร้อนก็มารีบต่อ จุดพีคอยู่ตรงนี้พอพ่อเผลอ เจ้าเด็กน้อยก็เอาเตารีดไปวางไว้ที่บนเป้าของพ่อ!! (นี่มันฆ่ากันชัด ๆ !!) “เฮ้ยย!!” ผู้เป็นพ่อตกใจรีบยกเตารีดออก แต่เมื่อไม่ได้รับอันตรายก็ลองเอามือแตะเตารีดอย่างหวาดกลัว เขารู้ความจริงว่ามันไม่ร้อนพร้อมกับลูกชายที่หัวเราะอย่างสนุกสนาน…