รีวิว reMarkable 2 ว่ามันเหมาะกับนักเขียนอย่างไร

รีวิว  reMarkable 2 ว่ามันเหมาะกับนักเขียนอย่างไร

หากใครอยู่ในวงการ eReader ก็จะเคยได้ยินชื่อเสียงเรียงนามของ reMarkable กันมาบ้าง ตอนแรกผมเข้าใจว่ามันเรียกว่า ink tablet แต่พอซื้อมาถึงรู้ว่ามันคือ paper tablet ซึ่งตอนนี้มันอยู่ที่รุ่น 2 ครับ ผมก็รอตั้งแต่ปีก่อน รอมาหลายเดือนแล้ว กะว่าจะซื้อตอนรุ่น 3 ออก (คือลุ้นอยากให้มันมีกล้อง) แต่จนแล้วจนรอด มันก็ไม่ออกสักที แล้วก็ไม่มีข่าวลับเผยแพร่ออกมาว่าจะออกเมื่อไหร่ ไม่มีใครรู้เลย สุดท้ายทนไม่ไหวละ ซื้อเลยละกัน

ราคาเท่าไหร่?

ถ้าคุณไปซื้อที่เว็บมันโดยตรงจะถูกกว่าซื้อในแอป ในแอปแพงกว่า 5000 บาทเลยนะ! แล้วถ้าซื้อรวมหมดทุกอย่าง แพงกว่าซื้อโดยตรง 6000 บาทครับ อันนี้ผมซื้อเครื่อง ดินสอแบบมียางลบ (marker plus) แล้วก็เคส (book folio) รวมแล้วก็ 20,997 บาท ราคานี้รวมค่าส่งและภาษีแล้วด้วย ส่งเร็วครับ 2-4 วันทำการ ใครไม่กล้ากดซื้อก็ไม่รู้หรอกว่ามันไม่คิดภาษีและค่าส่ง

ส่งมารวมทั้งหมดแล้ว กล่องเล็กแค่นี่ เพราะเครื่องมันบางมากครับ บางกว่าดินสอบมันอีก ตอนแรกผมก็งงเลย มันบางแค่นี้เองเหรือที่สั่งไป

ข้างในมีของครบตามที่สั่งไป เครื่อง+ดินสอ+เคส กล่องบางมากครับ ไม่ได้หรูหราแบบกล่องไอแพด แต่ก็ไม่ได้บกพร่องในเรื่องของการกันกระแทก คือเขาไม่ได้กะให้เราเก็บไว้น่ะครับ ด้านในเขาก็เขียนไว้ด้วยว่า “กระดาษรีไซเคิล” คือแบบว่าลดโลกร้อนมากอ่ะ

แกะกล่องออกมานี่งงเป็นไก่ตาแตก คือก่อนจะถึงภาพนี้ ผมพยายามจะหาที่แกะฟิล์มติดหน้าจอออก เพราะตอนแรกมันบอกให้กดเปิดเครื่อง แล้วคุณลองนึกสิว่าปกติไม่มีหรอกที่เขาจะเขาจะเปิดเครื่อง tablet มาให้คุณ แต่นี่มันทำครับ!! สรุปคือมันเหมือนกระดาษมากจนผมพยายามจะหาทางแกะมันออก โดนคนขายสับขาหลอกไปหนึ่งที ณ จุดนี้

เอาล่ะ มาดูเคสกัน อันนี้เป็นแบบปกหนังสือนะครับ เขาเรียกว่า Book Folio ข้างในมีขอบแม่เหล็ก ดูดติดรีมาร์คของเราอย่างง่ายดาย ปกพับไปซ้อนด้านหลังได้ อารมณ์เหมือนอ่านหนังสือมือเดียว ดินสอสามารถเกาะติดเครื่องได้ครับ มันมีแม่เหล็ก ทว่าเครื่องมันบางมาก มันอาจจะไม่ค่อยแน่นเท่าไหร่ ฉะนั้นโปรดระวังดินสอร่วงหล่น ผมว่าหาซองใส่ดินสอของไอแพดรุ่นแรกที่มียางรัดมาใช้ก็น่าจะดี แต่ไม่รู้มันใช้ด้วยกันได้รึเปล่านี่สิ เพราะขนาดมันแตกต่างกัน

ภาพนี่ถ้าเห็นไม่ชัดก็ต้องซูมดูสักหน่อย ผมลองเขียน แล้วก็ใช้ยางลบที่ก้นดินสอลบดู ปรากฏว่ามันลบไม่เกลี้ยงครับ ลบเสร็จแล้วมันยังมีรอยจางๆ เหมือนกับกระดาษจริงที่ลบไม่เกลี้ยงเลย เฮ้ย!! มึงจะเหมือนกระดาษเกินไปแล้ว

ในการทำงานมันจะมีให้เลือก 3 แบบครับ

  1. โฟลเดอร์
  2. สมุดเป็นเล่ม
  3. มาเป็นแผ่น ๆ แบบใช้งานด่วน

พอเราเลือกมันก็จะให้เราใส่ชื่อ แน่นอนว่ามันไม่มีภาษาไทย ส่วนใหญ่มันมีภาษาของพวกยุโรป ฉะนั้น เขียนชื่อเป็นภาษาอังกฤษนั่นแหละครับดีแล้ว ส่วนหน้ากระดาษมันมีแบบเส้นให้เลือกมากมาย

คีย์บอร์ดมันจะคล้ายๆ ไอแพดนะครับ จริงๆ มันก็คล้ายเอนดรอยด้วยนั่นแหละ แต่สำหรับตัวนี้ OS มันเป็นลีนุกซ์นะครับ ทำมาได้ดี ปราณีตกว่าเอ็นดรอย ปุ่มตรงซ้ายล่างที่เป็ฯรูปโลกนั่นเป็นปุ่มสากลที่ใช้เปลี่ยนภาษานะครับ แต่อย่างที่บอก ภาษาไทยยังไม่มี เออ..ผมลืมบอกไปอย่างหนึ่ง ตอนเปิดเครื่องมามันจะให้เช็ต wifi แล้วก็เลือกด้วยว่าคุณเขียนมือซ้ายหรือมือขวา ผมก็ไม่รู้หรอกว่ามันแตกต่างยังไง เพราะผมก็เลือกขวา แล้วก็ใช้งานตามปกติ ใครเลือกซ้ายก็มาแบ่งปันได้นะครับว่ามันแตกต่างกันยังไง

สำหรับหน้ากระดาษนั้นมันมีเทมเพลตให้เลือกใช้เยอะแยะเลย อวสานการใช้สมุดก็คราวนี้แหละ จริงๆ ผมก็เลิกใช้สมุดมานานแล้วล่ะ ไม่ใช่ว่าไม่ชอบจดนะ แต่รู้สึกว่าข้อมูลมันกระจัดกระจาย ดูแลยาก มันต้องเสียเวลามานั่งไล่อ่าน ยิ่งเขียนมากยิ่งเสียเวลามาก คือผมใช้ดินสอเขียนไงครับ สีมันเหมือนกันหมด มันไม่มีอะไรแตกต่างหรือสะดุดตา หลัง ๆ ผมก็เลยไม่ค่อยใช้สมุดถ้าไม่ใช่เรื่องจำเป็น ส่วนใหญ่จะเน้นทำงานบางอย่าง เสร็จแล้วก็เสร็จเลยไม่กลับมาดูมันอีก แต่คราวนี้แตกต่างแล้ว เพราะเครื่องนี้มันเบาบางและจัดระเบียบให้ผมได้

การเขียนให้ความรู้สึกลื่นกว่าดินสอนิดหน่อย คือแรงเสียดสีมันน้อยกว่านิดเดียว แต่ผลลัพธ์ออกมาเหมือนดินสอทุกอย่าง ทั้งมุมการเขียนและน้ำหนักที่เรากดลงไป ตอนนี้ยังไม่คุ้นกับแรงเสียดทานที่น้อยกว่าดินสอ รวมถึงไม่ได้เขียนมานานจนมือแข็ง ลายมือจึงเป็นอย่างที่เห็นนี่แหละ 555

ความไวในการเขียนดีนะครับ แสดงผล real time ไม่มีสะดุดให้หงุดหงิดใจ อ้อ…คุณสามารถซูมกระดาษได้นะ แต่ผมไม่แนะนำหรอก เพราะเครื่องมันจะรวนกลังจากซูมไปประมาณ 10 วินาที จอมันจะดำๆ ขาวๆ วูบวาบๆ มือไปโดนมันก็นึกว่าดินสอ อันนี้ต้องรอเขาปรับปรุงระบบไปเรื่อย ๆ ครับ ในอนาคตน่าจะสมบูรณ์ยิ่งกว่านี้

มาดูสิ่งที่น่าสนใจตรงเมนูด้านล่างครับ มันมีระบบ Layer!! สำหรับคนที่ไม่รู้ว่ามันคืออะไร ผมบอกง่ายๆ ว่ามันคล้ายกับแผ่นใสที่ซ้อนกันเป็นชั้นๆ อยากเขียนแผ่นไหนก็เขียนได้เลยโดยไม่กระทบแผ่นอื่น แต่การแสดงผลมันก็จะเหมือนเขียนอยู่แผ่นเดียวกัน

ฟีเจอร์นี้น่าสนใจมากครับ หากคุณอ่านหนังสือไฟล์ PDF แล้วอยากจะจดเพิ่มเติมอะไรเข้าไปก็จดไปอีก Layer หนึ่ง หนังสือก็ไม่เลอะเทอะ เวลาเราจะอ่านแต่หนังสือก็แค่ปิดการมองเห็นของ Layer นั้นเท่านั้นเอง

เวลาเราวาดภาพ ก็สามารถใส่คำอธิบายไปอีก Layer หนึ่งได้ ไม่ปะปนกัน แก้ไขง่าย หรือบางทีจดโน๊ตไปแล้วอยากจะขยายความก็ขยายความได้เลย ไม่ต้องกลัวมันเละเทะ

นอกจากเรื่อง Layer แล้วมันยังมี Tag ให้ใช้ สำหรับใครที่ใช้เครื่อง Mac จะเข้าใจได้ง่ายมาก หรือใครที่มีประสบการณ์ในการใช้งานโปรแกรมที่มีระบบการจัดเรียงข้อมูลก็จะพบเห็น Tag มาให้ใช้งาน คือสำหรับนักเขียนแล้ว ไอเดียมันโผล่มาได้ตลอด การจะมานั่งเลือกว่าจะเอาสมุดเล่มไหน หน้าไหน เรื่องไหนมาจดในสิ่งที่พึ่งคิดออกนั้นมันนาน วิธีการที่เร็วที่สุดคือจดไปเลย แล้วใส่ Tag ลงไป จากนั้นเวลาคุณต้องการจะหาข้อมูลตัวนี้ในดงหน้ากระดาษอันมหาศาล คุณก็แค่ search ตรง tag มันก็จะขึ้นหน้านั้นมาให้ รวมทั้งหน้าอื่น ๆ ที่ใช้ Tag เดียวกันมาด้วย

สรุป

  1. มันคืออะไร? มันคือกระดาษดิจิทอล ซึ่งมีระบบการ organize ข้อมูลมาให้ มันสะดวกกว่าสมุดก็แบบนี้แหละ
  2. เขียนดีไหม? มันก็ไม่ใช่กระดาษหรอกนะ แต่ก็ใกล้เคียงที่สุดในตอนนี้ เขียนลื่นไหลไม่สะดุด ไม่มีการ delay
  3. มีไฟในตัวไหม? ถ้าตามคนเขียนอันนี้แล้วแต่ช่วง บางทีก็ขี้เกียจ 555 แต่ถ้าถามถึงเครื่องนี้ มันไม่มีไฟล์จอนะครับ ใช้งานในที่มือคุณก็ต้องมีโคมไฟเหมือนอ่านหนังสือเป็นเล่มยังไงยังงั้นเลย
  4. คุ้มไหม? โดยส่วนตัวผมว่าคุ้มนะ สำหรับใครที่มักจะมีไอเดียพุ่งพล่านตลอดเวลา เรื่องที่เขียนยังไม่จบเรื่องใหม่ก็ผุดมาเรื่อย ๆ อย่างนี้ต้องมี เพื่อเอาความคิดเหล่านั้นออกไปจากสมอง ผมลองเครื่องมือมาหลายตัวละ เชื่อเถอะ ไม่มีตัวไหนดีเท่าสมุดหรอก เพราะอะไร? มันเซฟในคลาว วันดีคืนดีมันมีปัญหาการ sync ข้อมูลผมหายเฉยเลย หรือบางทีโปรแกรมก็เปิดไม่ได้เสียอย่างนั้น ข้อมูลแม้จะจัดเรียงดีอย่างไร ฉิบหายหมดในคราวเดียว อีกอย่างมันวาดรูปได้นะ คล่องตัวกว่าพิมพ์อย่างเดียว
  5. แล้วทำไมไม่ใช้ไอแพด? ผมมีนะ ไอแพดโปร 12.9 มี magic keyboard พร้อม แต่ขอโทษเถอะ น้ำหนักมันกิโลกว่า ถือได้ไม่นานก็เมื่อยแล้ว อีกทั้งการเขียนมันยังลื่นเกินไป ถึงติดฟิล์ด้านที่คล้ายกระดาษที่สุด มันก็ยังให้ความรู้สึกไม่เหมือน reMarkable
  6. รอรุ่นใหม่ดีมั้ย? อันนี้แล้วแต่คุณ ผมอยากได้กล้อง บางอย่างจะได้ถ่ายจากหนังสือเก็บไว้ คือพวกตารางมันขี้เกียจลอกไง มันย่อไม่ได้ ก็เลยว่าจะถ่ายไปเลย แต่รุ่นใหม่ก็ไม่มีอะไรการันตีว่ามันจะมี เพราะดูทรงแล้วมันไม่ได้มุ่งไปที่ครบวงจรเหมือน ink tablet ที่ใช้ระบบปฏิบัติการเอ็นดรอย แต่มันมุ่งเน้นที่จะทำให้เหมือนกระดาษมากที่สุด คิดได้อย่างนี้ผมเลยไม่รอ มีเงินก็เลยสอยมารีวิวให้ทุกคนอ่านอยู่นี่ไง

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *